วิธีเลือกขนาดและรูปแบบตะแกรงอาร์คให้เหมาะกับงาน

หลักในการพิจารณาเลือกตะแกรงอาร์คให้เหมาะกับงานและได้คุณภาพดี

ตะแกรงอาร์ค


ตะแกรงอาร์ค (Welding Mesh) เป็นวัสดุที่สามารถใช้ในหลากหลาย อุตสาหกรรม มีคุณสมบัติที่แข็งแรง น้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดีขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและขนาดช่องที่เลือกใช้ ตะแกรงอาร์คจึงได้รับความนิยมในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานตกแต่งภายใน งานป้องกันความปลอดภัย ฯลฯ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ใช้งานควรเลือกขนาดและรูปแบบของตะแกรงชนิดนี้ให้เหมาะสมกับประเภทของงานด้วย

ขนาดของตะแกรงอาร์ค สามารถแยกออกเป็น 3 ส่วนหลัก ดังนี้

  1. ขนาดรู (Mesh Size) : คือความยาวและความกว้างของช่องเปิด ขนาดที่นิยม ได้แก่ 25x25 mm, 30x30 mm, 38x38 mm และ 50x50mm สำหรับงานตะแกรงที่เป็นแผ่นและช่องที่เล็กกว่า 25x25mm สำหรับงานตะแกรงที่จำหน่ายเป็นม้วน
    • ขนาดรูเล็ก : เหมาะสำหรับงานตกแต่ง, หรือทำเป็นผนังกั้นพื้นที่ที่ต้องการป้องกันสิ่งแปลกปลอม
    • ขนาดรูใหญ่ : สามารถใช้ในการกั้นผนัง โดยไม่ต้องการป้องกันสิ่งแปลกปลอมใด เน้นที่น้ำหนักเบาเป็นหลัก

  2. ความหนาของลวด (Thickness) : มีผลต่อความแข็งแรง เช่น 2 mm, 3 mm, 4 mm เป็นต้นสำหรับงานที่เป็นแผ่น และ ลวดไม่เกิน 2 mm สำหรับงานเบา เช่นงานฉาบผนัง หรือนำไปล้อมบางพื้นที่

    • งานเบา : เช่น ฝ้าเพดาน สามารถนำขึ้นแขวนเป็นงานตกแต่งได้, ใช้ทำเพื่อกันผนัง ป้องกันสัตว์เล็ก
    • งานหนัก : เช่น แผงกั้นป้องกันการเข้ามาจากบุคคลภายนอก ป้องกันสัตว์ใหญ่ ใช้ความหนา 3 mm ขึ้นไป

  3. ขนาดแผ่น (Sheet Size) : ขนาดมาตรฐานคือ 4'x8' ฟุต แต่ก็สามารถสั่งผลิตขนาดที่ต้องการได้ และขนาดม้วนที่ 1x30 เมตร หรือ 1.22x30 เมตร ต่อม้วน

วิธีเลือกขนาดและรูปแบบตะแกรงอาร์คให้เหมาะกับงาน

  1. การเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยสามารถแบ่งรูปแบบของตะแกรงประเภทนี้ได้ ดังนี้
    • เหล็ก (Steel Expanded Metal) : มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง งานอุตสาหกรรมและพื้นทางเดิน หากใช้เหล็ก ควรตรวจสอบว่าผ่านการ ชุบกัลวาไนซ์ (Galvanized) หรือเคลือบกันสนิมเพื่อยืดอายุการใช้งาน สำหรับงานภายนอกหรือพื้นที่ชื้น ควรหลีกเลี่ยงเหล็กดิบ
    • สเตนเลส (Stainless Steel Expanded Metal) : มีคุณสมบัติทนสนิม เหมาะกับงานภายนอก งานอาหารหรือบริเวณที่สัมผัสความชื้น
    • อะลูมิเนียม (Aluminum Expanded Metal) : มีคุณสมบัติน้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม ใช้ในงานตกแต่งหรือโครงการที่เน้นความสวยงาม
    • เคลือบสี (EDP, Chromium, Coated, Painted, Galvanized) : สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ป้องกันการกัดกร่อนได้ดี
  2. พิจารณาเรื่องความปลอดภัยและมาตรฐานของตะแกรงอาร์ค โดยพิจารณา 3 สิ่งนี้
    • วัตถุประสงค์การใช้งาน ว่าขนาดลวด, ขนาดช่อง และวัตถุดิบที่เลือกใช้ตรงกับความต้องการหรือไม่
    • ในพื้นที่นั้น เหมาะกับลักษณะหรือคุณสมบัติ ของวัตุดิบประเภทไหน
    • อย่ามองแค่ราคา แต่ควรเปรียบเทียบคุณภาพที่ได้จากราคานั้น ตะแกรงอาร์ค ที่ราคาถูกมาก อาจใช้วัสดุตัวลวดบางไม่ได้มาตรฐานและมีอายุใช้งานสั้น โดยควรเปรียบเทียบจากขนาดลวดจริง, ขนาดช่อง, และคุณภาพงานในการเชื่อม เป็นต้น



ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

  • หากเป็นงานดีไซน์หรืองานสถาปัตย์ ควรเลือกตะแกรงที่มีขนาดช่องที่สม่ำเสมอและรวมถึงกรณีเป็นแบบเคลือบ ควรตีวจสอบการเคลือบของพื้นผิวเรียบร้อยตามที่ต้องการ
  • งานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าหรือการกัดกร่อนควรใช้วัสดุที่เป็นฉนวนหรือทนเคมี ให้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนครับ
  • อย่าลืมคำนึงถึงการติดตั้ง เช่น ตะแกรงควรมีขอบพับหรือกรอบรองรับเพื่อความปลอดภัย


ตะแกรงอาร์ค เป็นวัสดุที่ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในด้านก่อสร้าง อุตสาหกรรมต่าง ๆ และงานตกแต่ง เพื่อให้ใช้งานได้ทนทาน ปลอดภัยและคุ้มค่า ผู้ใช้งานควรรู้วิธีเลือกที่คุณภาพ ไม่ใช่แค่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว และตะแกรงที่ดีไม่ใช่แค่ต้องดูแข็งแรงแต่ต้องผลิตด้วยวัสดุคุณภาพ ขนาดช่องที่ถูกต้องตามความต้องการ ขนาดที่เลือกเหมาะกับงานและมีมาตรฐานรับรอง การเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้และไม่มองแต่ราคาจะช่วยลดปัญหาในระยะยาว อายุการใช้งานในระยะยาวและเพิ่มความปลอดภัยให้กับงานของคุณ

บริษัท รุ่งอรุณแมชชีนเนอรี่(1989) จำกัด เป็นผู้นำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมและเป็นตัวแทนจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี จึงมีความเชี่ยวชาญในการเลือกสรรสินค้าอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าในระดับสูงสุด

สนใจตะแกรงอาร์คหรือเหล็กฉีก ติดต่อสอบถาม ได้ที่

เลขที่ 73 / 24-25 ซอยพญานาค ถนนบรรทัดทอง แขวงถนนเพชรบุรี 
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400