การเลือกซื้อตะแกรงเหล็กฉีก คุณสมบัติและมาตรฐานที่ควรรู้

ตะแกรงเหล็กฉีกเลือกที่ใช่ทั้งการใช้งานและมาตรฐานที่ถูกต้อง

การเลือกซื้อตะแกรงเหล็กฉีก

“ตะแกรงเหล็กฉีก” ถ้าเป็นเมื่อก่อนหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้แต่ถ้าหากบอกว่ามีเป็นเหล็กตาข่ายที่มักพบเห็นได้บ่อย ๆ ในชั้นวางสินค้า หรือใช้เป็นทางเดินลอยฟ้าที่ใช้เดินข้ามตามอาคารใหญ่ๆทุกคนคงจะพอนึกภาพออก ตะแกรงเหล็กฉีกนั้นสามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น แบบบางสามารถใช้ในงานก่อสร้างฉาบผนังเพื่อการยึดเกาะ, ใช้ตกแต่งเป็นตะแกรงหน้ารถยนต์, ใช้ในงานของไส้กรอง รวมถึงสามารถใช้ในการล้อมรั้วรอบเครื่องจักรเพื่อความปลอดภัยเป็นต้น ตะแกรงเหล็กฉีกจึงมีประโยชน์อย่างมากในการนำไปใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากตะแกรงเหล็กฉีกมีกรรมวิธีผลิตด้วยการนำแผ่นเหล็กมายืดออกเพื่อให้เกิดลวดลาย โดยในแต่ละมุมของลวดลายจะติดเนียนอย่างเป็นระเบียบเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทั้งแผ่นไม่มีรอยเชื่อมต่อเหมือนแผ่นเหล็กเส้นทั่วไป ด้วยความเป็นแผ่นเดียวทั้งผืนตะแกรงเหล็กฉีกจึงมีความทนทานสูงมากกว่าเหล็กเส้นที่นำมาเชื่อมต่อกัน ดังนั้นในการเลือกซื้อตะแกรงเหล็กฉีกจึงต้องควรรู้คุณสมบัติเพื่อให้สามารถเลือกซื้อได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งตะแกรงเหล็กฉีกยังมีหลายรุ่นซึ่งแต่ละรุ่นจะมีความโดดเด่นและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมไปถึงมาตรฐานของตะแกรงเหล็กฉีกที่จะเป็นการการันตีคุณภาพของตะแกรงเหล็กฉีกและความปลอดภัยที่จะได้รับจากการใช้งาน

คุณสมบัติของตะแกรงเหล็กฉีก ความโดดเด่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

  • ในเบอร์ที่มีความหนามากๆ จะมีความแข็งแรงทนทานรองรับน้ำหนักมากได้ เพราะตะแกรงเหล็กฉีกไม่มีการเชื่อมต่อของเหล็กเป็นเหล็กที่เกิดจากแผ่นเดียวกันทั้งชิ้น
  • ในเบอร์ที่ไม่มีความหนามาก จะมีน้ำหนักเบา เพราะลักษณะของตะแกรงเหล็กฉีกมีความโปร่งและเป็นเหล็กชิ้นเดียวกันทั้งแผ่น ใช้ในอุตสาหกรรมตกแต่งเป็นหลัก
  • ใช้ระบายความร้อนได้ดีเพราะตะแกรงเหล็กฉีกมีความโปร่ง
  • มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนำไปชุบ GALV แผ่นตะแกรงเหล็กฉีก ที่ถูกนำมารีดแบนจะไม่มีเสี้ยนคมเพราะมีความเรียบตลอดทั้งแผ่น
  • มีดีไซน์ ความหนา และรูปแบบที่หลากหลายเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย
  • สะดวกในการใช้ง่ายและทำความสะอาดได้ง่าย
  • ราคาถูก


รุ่นที่แตกต่างของตะแกรงเหล็กฉีก ก็มีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน

ตะแกรงเหล็กฉีกที่เราเห็นถึงแม้จะมีหน้าตาที่คล้ายกันแต่ความเป็นจริงแล้ว ตะแกรงเหล็กฉีกมีหลากหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันโดยรุ่นของตะแกรงเหล็กฉีกมีดังนี้

ตะแกรงเหล็กฉีก XS เป็นรุ่นของตะแกรงที่มีตาข่ายค่อนข้างเล็กสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายประเภท เช่น งานตกแต่งอาคาร, ทำเป็นรั้ว, ราวกันตก, ปูพื้น, ทำเป็นกรงสัตว์ หรือทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ซึ่งตะแกรงเหล็กฉีก XS ก็มีหลายรุ่นซึ่งมีความเหมาะสมในการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. ตะแกรงเหล็กฉีก รุ่น XS-31,-32,-33 มีช่องตะแกรงที่เล็กที่สุดโดยมีความกว้างประมาณ 12 มิลลิเมตร มีน้ำหนักเบา เหมาะในการทำเป็นผนังป้องกันนก หนู สัตว์ต่าง ๆ หรือเป็นผนังบังตา

  2. ตะแกรงเหล็กฉีก รุ่น XS-41, -42,-43 มีความกว้างของช่องตะแกรงประมาณ 22 มิลลิเมตร นิยมนำมาทำผนังบังตา ติดตามราวบันได หรือราวระเบียง ราวกันตก

  3. ตะแกรงเหล็กฉีก รุ่น XS-51, -52, -53 มีความกว้างของช่องตะแกรงประมาณ 25 มิลลิเมตร มีความแข็งแรงทนทานจึงมักนำมาใช้ทำพื้นปูทางเดินแบบพื้นลอยของอาคาร สูงในโรงงาน

  4. ตะแกรงเหล็กฉีก รุ่น XS-61, -62, -63 มีความกว้างของช่องตะแกรงประมาณ 34 มิลลิเมตร มีความโดดเด่นในด้านของความแข็งแรง ปลอดภัย เพราะนอกจากจะมีความกว้างของช่องตะแกรงที่กว้าง 34 มิลลิเมตรและ ยังมีสันที่ใหญ่ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร และมีความหนากว่ารุ่นอื่น ๆ เหมาะกับการนำไปใช้เป็นฝ้า ผนังห้อง หรือราวกันตกด้านนอกอาคาร

  5. ตะแกรงเหล็กฉีก รุ่น XS-71, -72, -73 มีความกว้างช่องตะแกรงประมาณ 50 มิลลิเมตรนิยมใช้ทำรั้วบ้านหรือรั้วสนามกีฬาต่าง ๆ

ตะแกรงเหล็กฉีกรุ่น XG เป็นตะแกรงเหล็กฉีกที่มีความโดดเด่นในเรื่องความหนาจึงสามารถรองรับน้ำหนักมาก ๆ ได้ เช่น ใช้ในงานปูพื้นรถยนต์, รถขนส่ง หรือรถเครน นอกจากนี้ยังนิยมทำเป็นพื้นทางเดิน ไปจนถึงการใช้ปูพื้นทำทางให้รถวิ่งได้อีกด้วยโดยตะแกรงเหล็กฉีกรุ่น XG มีดังนี้

  1. ตะแกรงเหล็กฉีก รุ่น XG-10, -11, -12 เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการปูพื้นกันลื่น ทำราวกันตก หรือรั้วบ้าน
  2. ตะแกรงเหล็กฉีก รุ่น XG-20, -21, -22 เหมาะสำหรับปูพื้นรถขนส่ง รถเครน หรือทำพื้นทางเดิน ไปจนถึงใช้ปูพื้นถนนให้รถวิ่ง

  3. ตะแกรงเหล็กฉีก S เป็นตะแกรงเหล็กฉีกที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความสวยงามมีเอกลักษณ์จะใช้ในการตกแต่งอาคารเป็นหลัก เช่น ทำเป็นเหล็กดัด, ประตู, หน้าต่าง, แผงกั้น, ราวระเบียง เป็นต้น ตัวอย่างของตะแกรงเหล็กฉีก S เช่น ตะแกรงเหล็กฉีกรุ่น S-6 จะมีช่องตะแกรงรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดผสมกับรูปหกเหลี่ยมแนวยาว หรือตะแกรงเหล็กฉีกรุ่น S-18 ที่มีช่องตาสี่เหลี่ยมแต่ขอบมนและซ้อนกันจนมีลักษณะคล้ายคลื่น และตะแกรงเหล็กฉีกรุ่น S-31 ที่มีช่องตะแกรงรุ่น S-6 แต่มีขอบโค้งมนจึงทำให้ดูมีความนุ่มนวลมากขึ้น

  4. ตะแกรงเหล็กฉีก CT ตะแกรงเหล็กฉีกรุ่นนี้จะมีช่องตะแกรงที่เล็กกว่ารุ่นมาตรฐานโดยจะมีความกว้างเพียง 6 มิลลิเมตร และจะผลิตจากเหล็กขาว (SPCC) จะมีด้วยกัน 7 รุ่น นิยมนำมาใช้ในการทำไส้กรอง ช่องระบายอากาศ หรือหม้อกรอง

  5. ตะแกรงเหล็กฉีก G เป็นตะแกรงเหล็กฉีกที่ช่องตะแกรงเป็นรูปหกเหลี่ยมแบบรังผึ้ง มีความทันสมัยและมีความสวยงาม นอกจากนั้นยังมีความแข็งแรงทนทานในการรองรับน้ำหนักได้ดี จึงเหมาะกับการนำไปปูพื้นทางเดิน ทำผนังราวระเบียง ราวกันตก ใช้ตกแต่งประตู หน้าต่าง หรือ เป็นส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

มาตรฐานตะแกรงเหล็กฉีก สัญลักษณ์ของความแข็งแรงและปลอดภัย

มาตรฐานของตะแกรงเหล็กฉีกเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องเลือกซื้อตะแกรงเหล็กฉีก เนื่องจากตะแกรงเหล็กฉีกมักถูกนำไปใช้ในการรับน้ำหนัก ซึ่งหากไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ดังนั้นตะแกรงเหล็กฉีกจึงต้องมีมาตรฐานเพื่อเป็นการรับรองว่าตะแกรงเหล็กฉีกแผ่นนี้ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพที่พร้อมจะนำมาใช้งานได้ โดยมาตรฐานของตะแกรงเหล็กฉีกที่ใช้วัดคุณภาพมาตรฐานของตะแกรงเหล็กฉีก มีดังนี้

  • มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เป็นมาตรฐานที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมกำหนดขึ้นมา เพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดย มอก. จะกำหนดขนาดของช่องตะแกรง ความหนาของแผ่น และคุณสมบัติทางกายภาพอื่น ๆ ของตะแกรงเหล็กฉีก

  • มาตรฐาน ASTM เป็นมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ซึ่งเป็นการกำหนดวิธีทดสอบและคุณสมบัติของวัสดุต่าง ๆ ของตะแกรงเหล็กฉีกด้วย มาตรฐาน ASTM จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการนำเข้าหรือส่งออกตะแกรงเหล็กฉีกที่จะใช้เป็นการวัดมาตรฐานของตะแกรงเหล็กฉีกที่จะนำเข้ามา

นอกจากมาตรฐานที่กล่าวมาแล้วยังมีมาตรฐาน JIS ซึ่งเป็นมาตรฐานของญี่ปุ่นและมาตรฐาน EN ของสหภาพยุโรป ที่ใช้วัดมาตรฐานของตะแกรงเหล็กฉีกในแต่ละประเทศอีกด้วย

เมื่อรู้คุณสมบัติ รุ่นของตะแกรงเหล็กฉีก และมาตรฐานของตะแกรงเหล็กฉีกแล้ว การเลือกซื้อเพื่อนำไปใช้งานก็สำคัญเพราะหากเลือกไปงานที่ผิดประเภทหรือไม่รู้วิธีการตรวจสอบตะแกรงเหล็กฉีกที่มีมาตรฐานอาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินและชีวิตได้

วิธีการเลือกซื้อตะแกรงเหล็กฉีกให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน

  • ต้องเลือกตะแกรงเหล็กฉีกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้งาน ที่ต้องมีความเหมาะสมทั้งขนาดความหนาและขนาดของรูปร่างตะแกรงเหล็กฉีก เพื่อให้ได้ตะแกรงเหล็กฉีกที่แข็งแรงและเหมาะสมกับการนำไปใช้งาน
  • ตะแกรงเหล็กฉีกต้องมีความหนา ขนาดรู ความกว้างความยาวของช่องตะแกรง และน้ำหนักตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในแต่ละรุ่น
  • ควรมีใบรับรองมาตรฐานหรือเครื่องหมายรับรองเพื่อเป็นการยืนยันว่าตะแกรงเหล็กฉีกแผ่นนี้ได้มาตรฐานที่จะนำไปใช้งานได้
  • ลักษณะของตะแกรงเหล็กฉีกต้องมีผิวเรียบเสมอกันทั้งแผ่น ไม่มีเสี้ยนส่วนเกินบริเวณสัน ไม่มีปีก ไม่มีลูกคลื่น หน้าตัดต้องกลม ไม่เบี้ยว ผิวไม่มีรอยปริแตก ระยะช่องของตะแกรงต้องเท่ากัน และไม่มีรอยเชื่อมต่อของเหล็ก
  • หากต้องการให้ตะแกรงเหล็กฉีกมีอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น สามารถเลือกใช้เหล็กฉีกที่มีการเคลือบสังกะสีหรือกัลวาไนซ์จะช่วยป้องกันสนิมให้กับตะแกรงเหล็กฉีกได้

ด้วยวิธีการเลือกใช้งานตะแกรงเหล็กฉีกด้านบนจะช่วยให้คำนึงถึงสิ่งสำคัญในการพิจารณาเพื่อเลือกซื้อตะแกรงเหล็กฉีกที่มีมาตรฐานได้ ซึ่งในปัจจุบันตะแกรงเหล็กฉีกถือได้ว่าเป็นวัสดุที่นิยมในการใช้งานด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความแข็งแรงทนทานและความสวยงาม ที่มาพร้อมรุ่นการใช้งานที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบัน อีกทั้งตะแกรงเหล็กฉีกยังมีราคาถูกที่ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้อีกด้วย

บริษัท รุ่งอรุณแมชชีนเนอรี่(1989) จำกัด เป็นผู้นำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมและเป็นตัวแทนจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี จึงมีความเชี่ยวชาญในการเลือกสรรสินค้าอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าในระดับสูงสุด

สนใจตะแกรงเหล็กฉีก ติดต่อสอบถาม
บริษัท รุ่งอรุณแมชชีนเนอรี่ (1989) จำกัด

เลขที่ 73 / 24-25 ซอยพญานาค ถนนบรรทัดทอง แขวงถนนเพชรบุรี

เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400